หมดปัญหาเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อ Notebook หรือ Tablet ดี ?
Lenovo Yoga Duet 7i คือคำตอบ เพราะเป็นทั้ง Notebook และ Tablet ได้ ในเครื่องเดียวกัน
จะแยกกันไปทำไม ก็รวมไปเลยสิครับ
ด้วยราคาเปิดตัว 38,990 บาท แต่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และสเปกเครื่องที่ให้มาแบบจุใจ รับรองว่าคุ้มค่าและเหมาะกับการนำมาสำหรับทำงานประเภทเอกสาร หรืองานกราฟฟิกแบบเบื้องต้น รวมไปถึงใช้เพื่องานสำหรับเอนเตอร์เทน ดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมส์ก็ทำได้ดีไม่ติดขัด รับรองคุ้มค่ากับการสอยมาใช้แน่นอน
ที่สำคัญมีน้ำหนักเบาเพียง 1.16 กก. เรียกได้ว่าเบากกว่า NetBook เสียอีก แต่ไม่ต้องกังวลว่าน้ำหนักน้อยแล้วหน่วยความจำจะให้มาน้อย เพราะเขามีความจุสูงสุดถึง 16 GB จัดเก็บข้อมูลได้ถึง สูงสุด 1TB PCIe SSD แถมยังมีที่ใส่ Micro SD Card มาให้เพื่อความอุ่นใจสำหรับคนที่ต้องแบ็กอัพไฟล์งานไว้ดูย้อนหลังอีกด้วย
เแถมเขายังมีระบบปฏิบัติการ Window แถมมาให้ ไม่ต้องหาลงเองให้ยุ่งยาก เรียกได้ว่าซื้อ Notebook ราคานี้ แถมฟรีวินโดว์แท้นั่นเอง
นอกจากน้ำหนักเบาและหน่วยความจำแบบจุใจ เขายังมีรายละเอียดสเปกการใช้งาน ยังไงบ้าง มาดูกันเลย
โปรเซสเซอร์สูงสุด 10th Gen Intel®Core™ i7
กราฟิก Intel®UHD Graphics
จอภาพ
13" 2K (2160 x 1350), IPS, touchscreen, 100% sRGB รองรับ Lenovo E-Color Pen และ Lenovo Digital Pen (ทั้งคู่เป็นออปชั่น)
ระบบเสียง
2 x Dolby Audio™ speakers
Smart amp
ขนาดตัวเครื่อง (สูง x กว้าง x หนา)
297.4mm x 205.5mm x 9.19mm / 11.7" x 8.1" x 0.4"
การเชื่อมต่อ
WiFi 6 (802.11 ax 2x2)
รองรับ WiFi 5 (802.11 ac 1x1)
Bluetooth®5.1
Ports
2 x USB-C 3.1 (Gen 1, พร้อม Power delivery + DisplayPort + USB)
USB-C (USB only, with always-on charging)
HDMI
ตัวอ่าน SD card
เฮดโฟน/ ไมโครโฟน คอมโบ
สรุปง่าย ๆ จากการทดลองใช้จริง คือ น้ำหนักเบาสมคำร่ำลือ และเสียงลำโพงที่ให้มานั้นกระหึ่มได้ใจคนชอบดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมส์เป็นอย่างดี จอสีสันสดใส ใช้งานลื่นไหลไม่มีสะดุด ที่สำคัญยังมี AI คอยจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานและล็อกหน้าจออัตโนมัติช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย
แต่ถึงแม้จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานเทพ ๆ หลายอย่าง แต่ก็มีข้อที่ควรพิจารณาหากใครคิดจะซื้อหามาใช้งานนั่นคือ...
พอร์ทในการเชื่อมต่อนั้นมีให้อย่างจำกัดประเภท คือ USB Type C อย่างเดียวเท่านั้น หากจะเชื่อมต่อหน้าจออื่น ๆ สำหรับทำงาน หรือแม้แต่การใช้ Thumb drive มาเสียบนั้นไม่ใช้สิ่งที่ทำได้เลย เพราะต้องพึ่งพา Adapter ซึ่งไม่ได้แถมมาให้ อาจต้องหาซื้อใช้เอง แต่ก็ถือเป็นการแลกมากับหน้าจอที่บางเฉียบน้ำหนักแสนเบาก็พอได้และสำหรับใครที่จะนำไปใช้พรีเซนต์งานนอกสถานที่จอเข้ากับหน้าจอหรือเครื่องฉายสไลดอาจต้องพก Port Hub เล็ก ๆ ติดตัวไปด้วยเสมอ
อีกอย่างหนึ่งคือ Lenovo Yoga Duet 7i ไม่มีเมาส์มาให้ สำหรับใครที่ไม่ถนัดการใช้ Touchpad ต้องซื้อเมาส์และ Adapter เอง แต่ถ้าจะลองเปิดใจมาใช้มาใช้ Touchpad ของเขาก็ดีไม่น้อย เพราะระบบสัมผัสของเขาลื่นปื๊ดดีไม่มีสะดุดจริง ๆ แถมหน้าจอยังเป็นระบบสัมผัสเหมือนแท็บเล็ตช่วยให้ลืมการใช้เมาส์ไปได้เลย
สำหรับคนที่อยากเห็นว่า เมื่อถอดออกมาเป็น #Tablet แล้วหน้าตาจะเป็นยังไง ดูในรูปนี้ได้เลยจะเห็นได้ว่าหน้าจอคมชัดสุด ๆ ที่สำคัญ พอเอามาใช้คูู๋กับปากกา Lenovo E-Color Pen นั้นเหมาะกับการเป็นตัวช่วยในการเรียนออนไลน์ หรือทำงานออนไลน์ได้ดีทีเดียว เพราะแค่กดปุ่มตรงท้ายปากกา
1 ครั้ง สำหรับเป็นปากกาเรียกใช้งาน Microsoft White Board เพื่อแชร์ไอเดียในการทำงาน
2 ครั้ง สำหรับ จับภาพหน้าจอได้อย่างว่องไวในพริบตาเดียว
เหมาะสำหรับครูอาจารย์ที่ต้องตรวจและแก้การบ้านนักเรียน นักศึกษา ในยุคที่ต้องเรียนออนไลน์แบบนี้
หรือสำหรับคนทำงานที่อยากจะคอมเมนต์งานได้แบบรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลากดปุ่มคีย์ลัดให้ยุ่งยาก
เหล่านักกราฟิกต้องถูกใจสิ่งนี้ ฟังก์ชันดูดสีของ ปากกา Lenovo E-Color Pen ที่ตรงท้ายของมีเซนเซอร์ที่ช่วยจับและจำสีของวัตถุต่าง ๆ ไปใช้กับงานกราฟิกได้โดยไม่ต้องคอยมานั่งเทียบสีช่วยลดเวลาในการกราฟิกได้ดีแถมยังใช้งานง่ายแค่เอาตูดปากกาไปวางบนวัตถุจริงที่เราอยากดูดสีไปใช้กดปากกาลง 2 ทีแค่นี้ก็จะได้สีที่ถูกต้องไปใช้ในโปรแกรมต่าง ๆ ได้เลย
หน้าตาของกล่องสไตล์เท่ ๆ คูล ๆ แบบตระกูล YOGA
เปิดกล่องออกมาจะประกอบไปด้วย 3 สิ่งนี้
ตัวเครื่อง
ที่ชาร์จไฟ
ปากกา
มีเท่านี้ มีเท่านี้จริง ๆ
ด้านหน้าตัวเครื่องทำมาจากวัสดุแมกนีเซียมผสมอลูมิเนียม มั่นใจได้ว่าแข็งแรง ทนทาน ไม่ก๊องแก๊งอย่างแน่นนอน ดีไซน์แบบเรียบ ๆ เท่ ลืมบอกไปว่า ตัวขาตั้ง Kick Stand ด้านหลังถูกออกแบบมาให้กางได้หลายระดับตามต้องการตั้งแต่ เกือบ 90 องศาไปจนถึง 180 องศาหรือจะพับมาใช้งานเป็นแท็บเล็ตก็ได้ และยิ่งถอดแยกคีย์บอร์ดออกมายิ่งทำให้น้ำหนักเบาลงไปอีก
ด้านหลังทำด้วยผ้าวัสดุแปลกใหม่ ไม่เคยเห็นใน Notebook รุ่นไหนมาก่อน
สรุปประสบการณ์ที่ได้จากการใช้งานมาเดือนกว่า ๆ พบว่า
แบตเตอรี่ ในโหมด Stand by สามารถใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมงจริง ๆ แต่ถ้าใช้งานต่อเนื่องนั้นพบว่า 3 - 4 ชั่วโมง ก็ต้องชาร์จใหม่ เพราะฉะนั้นพกที่ชาร์จไฟไปด้วยดีที่สุด
เวลาแยกถอดหน้าจอคีย์แยกจากบอร์ดออกมาใช้สามารถทำงานไหลลื่นดี แต่ก็มีกระตุกบ้างเวลาที่แบตเตอร๊่ใกล้หมด และเครื่องจะค้างทันทีที่แบตเหลือน้อยสุด ๆ ดังนั้นเวลาใช้งานแยกกันต้องหมั่นชาร์จไฟให้เจ้าคีย์บอร์ดด้วยการเอากลับมาต่อหน้าจอกับคีย์บอร์ดเป็นระยะ แต่ถ้าจะใช้งานเฉพาะหน้าจอยาวไปเหมือนใช้แท็บเล็ตก็ไม่มีปัญหา
ปากกาที่แถมมาให้ใช้งานสะดวกดี ชาร์จไฟง่ายด้วยการถอดปลอกออกมาแล้วเสียบเข้าที่ชาร์จได้เลย ที่สำคัญแบตเตอรี่อึดมาก ชาร์จไว้ครั้งหนึ่งใช้งานได้นานเป็นสัปดาห์
กล้องหน้าเวลาใช้ประชุมออนไลน์ในช่วง Work from Home ค่อนข้างจะมืด เวลาใช้งานต้องหาไฟจากแหล่งอื่น ๆ เช่น โคมไฟมาเป็นตัวช่วย
เหมาะกับใคร ?
สำหรับคนที่ทำงานเอกสารทั่วไปและอยากได้โน๊ตบุกส์ทำงานและแท็บเล็ตสำหรับงานเอนเตอร์เทนในเครื่องเดียวต้องชอบแน่นอน เพราะในราคาเท่านี้ยังไงก็คุ้มกว่าการซื้อหลายอุปกรณ์แถมได้ระบบปฏิบัติการที่เสถียรและใช้งานได้หลากหลายและเชื่อมต่อง่ายอย่างวินโดว์ไปใช้ด้วย ส่วนคนที่ทำงานกราฟิกเครื่องนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ใช้งานถึงระดับกลาง ๆ ไม่ได้ตัดต่อวิดีโอไฟล์ใหญ่ ๆ หรือ ทำโมชั่นกราฟิกก็สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วใครที่ยังลังเลใจ อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม
สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ lnv.gy/3CnbbtY
หรือถ้าใครที่ตัดสินใจแล้วว่าอยากได้รุ่นนี้จริง ๆ ก้สามารถเข้าไปเทียบโปรโมชันและของแถมจากแต่ละร้านออนไลน์ ได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลย
หรือถ้าใครอยากรอให้หมดช่วงการระบาดของโควิด แล้วลองไปลองสัมผัสหรือใช้งานของจริงที่ร้านก่อนก็ได้ไม่ว่ากัน