มองหาทางรอดจากคดีฆาตกรรมอยู่หรือเปล่า

เมื่อคนลงมือฆ่าตัวจริงได้กลายเป็นผู้กล่าวหา...

ส่วนคนที่ไม่ได้ฆ่ากลับต้องขึ้นศาลเพื่อแก้ต่างให้ตนเอง

ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณ ?

จะทำอย่างไรเพื่อเอาตัวรอดจากโทษประหารชีวิต

ในประเทศที่มีกระบวนการยุติธรรมเข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่งอย่างสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีช่องโหว่มากมายให้ผู้กระทำผิดตัวจริงไม่ต้องรับโทษ ส่วนคนที่ถูกลงโทษในหลายครั้งกลับพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ "How to Get Away with Murder" ซีรีส์สุดฮิตจากอเมริกาที่จะมาตีแผ่ความอยุติธรรมที่ซุกไว้ใต้บัลลังก์ศาล

นี่ไม่ใช่ซีรีส์เพื่อหนีการไล่ล่า หรือต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากผู้ร้ายดาดดาดสไตล์ซีรีส์ฝรั่งทั่วไป เพราะสิ่งที่ตัวละครทั้งหมดกำลังถูกตามล่าก็คือความวิบัติที่เป็นผลลัพธ์จากความพยายามแก้ปัญหาโง่ๆ ด้วยวิธีการที่งี่เง่าของตนเองทั้งสิ้น

ใครจะไปคิดว่าแค่ปัญหาผัวๆ เมียๆ ธรรมดาจะนำพาให้ Annalise Keating ทนายหญิงสุดสตรองแถมยังเป็นอาจารย์สอนกฎหมายอนาคตไกลที่มหาวิทยาลัย Middleton ไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญคดีแล้วคดีเล่า จนทำให้เธอเสียศูนย์ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังอุตส่าห์หอบชีวิตพังๆ ไปงัดข้อกับผู้มีอำนาจสูงสุดระดับประเทศจนได้

ความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่การ เอาใจช่วยตัวละครต่างๆ จากเหตุการณ์บีบคั้นต่างๆ เท่านั้น แต่ปมปัญหา ที่มาที่ไป ที่สะท้อนให้เห็นเหตุผลในการกระทำและตัดสินใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คับขันต่างหากที่เอาคนดูอยู่หมัด เพราะแต่ละตัวละครในเรื่องนี้ จะพูดว่า เป็นเหตุการณ์ "ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน" ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะทุกคนในเรื่องต่างก็มีเป้าหมายในชีวิตที่ดี อยากจะเป็นคนที่ดีกว่าเวอร์ชันเดิมของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ด้วยปูมหลังอันยุ่งเหยิงของแต่ละคน ต่อให้อยากทำดีแค่ไหน พอมารวมตัวกันกลับสร้างความบรรลัยขนาดเบิ้มเบิ้มกว่าเดิมในทุกๆ ครั้งไปซะยังงั้น

นอกจากความสนุกจากพล็อตหลักของเรื่องที่ต้องลุ้นระทึกกันทุก Ep. แล้ว พล็อตย่อยๆ เกี่ยวกับชีวิตของแต่ละตัวละครในเรื่องก็ยังน่าติดตามจนต้องถามตัวเองว่าตูควรจะรักหรือจะเกลียดคนพวกนี้กันแน่ ไม่ว่าเป็นตัวละครเอกอย่างตัว Annalise เอง หรือเหล่าบรรดาลูกน้องและลูกศิษย์กวนตัวไปจนถึงผัวกวนใจ ที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวพันกับประเด็นยุ่งเหยิงมากมาย จากละครหลากหลายที่มา เช่น หญิงสาวกำพร้าที่เติบโตมาอย่างปากกัดตีนถีบและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง หรือคู่เกย์ที่มีคนหนึ่งได้รับเชื้อ HIV แต่มีเหตุให้ต้องทำงานร่วมกัน รวมถึงลูกคุณหนูเอาแต่ใจ จนทำให้เกิดปัญหาตามมา และประเด็นปัญหาอื่นๆ มากมาย เช่น การพยายาม Move on ของตัวละครที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ การไม่ยอมรับตัวเองในการเป็นเลสเบี้ยน ประเด็นคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดกฎหมายแต่อาจถูกต้องตามหลักมนุษยธรรม การต่อสู้กับอาการพิษสุราเรื้อรัง ฯลฯ เรียกได้ว่าถ้าได้ดูเป็นต้องถอนตัวไม่ขึ้น ติดงอมแงม ตั้งแต่ Season 1 รู้ตัวอีกทีก็อดตาหลับขับตานอนดูมาถึง Season 6 แน่นอน

การันตีความสนุกและคุณภาพจากเรตติ้งถล่มทลาย และ รางวัลมากมายจากหลากหลายสถาบันตลอดระยะเวลา 6 Season ที่ผ่านมา แต่อย่าได้แคร์รางวัลเหล่านั้น จนกว่าจะได้ดูด้วยตนเอง อาจจะมีบาง Season ที่เนื้อหาดูวนเวียนอยู่ในอ่างสักนิดแต่ก็เข้าใจเพราะปมปัญหาของเรื่องมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินกว่าจะตัดจบ แต่ด้วยคาแรกเตอร์ของตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์ครบถ้วน บทจะฉลาดแสนดี ก็ดีจนจนใจหาย บทจะเห็นแก่ตัวหรือขาดสติก็ทำกันไปได้ น่าโดนด่าชะมัด ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ และนักแสดงทุกคนก็เล่นเป็นธรรมชาติแถมยังเข้าขากันดีมาก ไล่มาตั้งแต่ นักแสดงนำอย่าง Viola Davis ที่บางคนอาจจะยังไม่รู้จักว่าเจ๊คนนี้แกเป็นใคร แต่เมื่อดูไปสักพัก ต้องมีคน Search Google หาประวัติของนักแสดงมาฝีมือและกลายเป็นแฟนตัวยงของเธอแน่นอน รวมไปถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่รับผิดชอบบทบาทของตนเองได้ยอดเยี่ยมจนทำให้ต้องเอาใจช่วยอยู่ร่ำไป ถึงแม้จะขัดใจกับพฤติกรรม (ในเรื่อง) ก็ตามที

"How to Get Away with Murder" หรือในชื่อภาษาไทยว่า "ก๊วนแสบอำพรางศพ" เปิดให้รับชมทั้ง 6 Season ยาวไป แล้วที่ Netflix

หรือจะกดดูจากลิงก์นี้เลยก็ได้ https://www.netflix.com/th-en/title/80024057

สำหรับคนที่เคยตั้งคำถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ดูจบแล้วจะได้คำตอบไหม? ไม่รู้ ! แต่ที่รู้คือไม่ว่าจะในสังคมแบบไหน เชื้อชาติภาษาใด สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ตลอดมานั่นคือ "กฎแห่งกรรม" ซึ่งเป็นกฎเดียวที่ยังคง "ยุติธรรม" อยู่เสมอ

ขอบคุณเครดิตภาพจาก Facebook Page @HowToGetAwayWithMurder

#Entertainment

#NETFLIX